joe

joe
ยินดีต้อนรับพี่น้องผองเพื่อนทุกท่านเข้าสู่แหล่งรวม ct แนว tracker และ scamble สายลุย

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ทริปตราด1-2สค.

กลับมาอีกครั้งกับช่องทางเดิมเตรียมพบกับการเดินทางครั้งใหม่ของผมและผองเพื่อนเร็วๆนี้ ทริปต่อไปที่ใก้จะถึงนี้คือการเดินทางทริป ศรีราชา-ตราด (หาดบานชื่น)สุดแดนตะวันออกและส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย ที่อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ส่วนที่แคบที่สุดกับเนื้อที่เพียง450. แล้วพบกันครับ

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ฝากเพจซื้อขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

เป็นแบรนด์ผมเองที่กำลังปั้นเข้าไปชมและติดตามเพจได้ครับ dr.biker

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แจ้งช่องทางติดตามเพจบันทึกการเดินทาง

แจ้งช่องทางเข้าไปติดตามเพจใหม่แต่ยังเป็นเรื่องเก่ากันได้ตามลิ๊งค์นี้นะครับแล้วอย่างลืมกดถูกใจเพื่อติดตามบันทึกการเดินทางของผมและผองเพื่อนล่ะ
https://m.facebook.com/joecentaurtracker

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

แจ้งข่าวเปิดเพจใหม่

สวัสดีครับ. วันนี้แค่อยากจะมาแจ้งว่าตอนนี้มีช่องทางใหม่ที่จะติดตาม บันทึกเรื้องราวต่างๆทั้งการใช้รถและการเดินทางท่องเที่ยวของผมได้ กดถูกใจกันได้เลยครับ ตามชื่อเพจ ขอบคุณครับ


แจ้งเรื่องทริปเหนือนิดหน่อยครับ

ล่วงเลยเวลาหลังกลับจากทริปเหนือไอ้กระผมก็ยังไม่ได้อัพเดทเรื่องราวที่ได้ไปพบเจอมาเลย เนื่องด้วยภาระหน้าที่งานประจำและต้องการพักผ่อนหลังจากตะบี้ตะบันใช้เรือนกายชำเรามอเตอร์ไซค์คู่ใจมาสองพันกว่าโล
ครั้นพอจะมีเวลาบ้างก็ดันมีปัญหากับคอม จะใช้โน๊ตบุคที่บ้านอัพเดทเรื่องราวก็ต้องแอบใช้ไวไฟข้างบ้าน ซึ่งมันช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลาน จะลงรูปภาพประกอบนี่ผมนอนรอเป็นชั่วโมงตื่นมามันก็ยังโหลดไม่เสร็จ ทำให้เวลาในการจะเล่าเรื่องราวต่างๆยืดยาวออกไปและนี่ก็ยังไม่ใช่เรื่องราวที่จะมานำเสนอเล่าเรื่องราวการไปทริปเหนือ
แค่อยากจะมาบอกพี่น้องว่ารอสักพักจนกว่าผมจะลงรูปประกอบได้นั่นแหละผมจะมาเล่าให้พี่น้องฟังว่าทริปเหนือของเรา3คน โหด เลว ดี เช่นไร บอกเลยประสบการณ์ครั้งนี้ผมจะไม่มีวันลืม ผมประทับใจมาก ที่ไม่ถอนตัวจากทริปเพร่ะก่อนวันเดินทางดันเป็นไข้หวัด แต่กลัวทริปล่มเลยลากสังขารไป แล้วก็ไม่ผิดหวังในสิ่งที่พบเจอมาก บอกได้เลยว่า โอ้วววว...พระเจ้ายอด มันจ๊อดดดด..มากก
การเขียนบทความแต่ละเริ่องของผมเป็นการนึกคำแล้วก็พิมพ์ไปเลยไม่มีการแก้ไข บางทีอาจจะมีคำซ้ำวนไปวนมาบ้างก็ต้องขอพระอภัยมณีมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
สรุปว่าถ้าคอมเป็นใจกับผมเมื่อไรจะมาเล่าให้ฟังนะครับ สวัสดี.....

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

ทริป ศรีราชา-แม่สาย

ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ที่ไม่ได้อัพเดทเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆมานานพอสมควรเนื่องด้วยผมมีปัญหาทะเลาะกับคอมที่บ้าน เพราะลงรูปภาพไม่ได้ เลยเกิดความน้อยเนื่องต่ำใจอะไรบางอย่างแบบเด็กๆ จึงเขียนเพลงนี้ขึ้นมาชื่อเพลง"ผีโรงเย็น" (ไม่เกี่ยวกันเล๊ย ตัวหนังสือมันพาไป)

ณ วันนี้ที่ผมมาอัพเดทบล็อกอีกครั้งก็เพราะจะมีโปรเจคใหม่ ในวันที่11-15เม.ย.นี้ เลยรวบรัดตัดตอนเอาเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน เป็น ทริปที่ผมคิดว่าอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตลูกผู้ชายที่จะได้เดินทางไกลกับเจ้าct ของผมกับพี่น้องอีก2คน รวมเป็น3คน3คัน

ทริปนี้พี่เขาให้ชื่อว่า ride now project แปลว่าอะไรผมก็ไม่รู้ เออออห่อหมกตามเขาไป แต่สรุปได้ว่าทริปนี้คือการเดินทาง เริ่มต้นจาก ศรีราชา ชลบุรี ไปถึงจุดเหนือสุดประเทศไทยที่ แม่สาย เชียงราย ระยะทางร่วม 2500กม. ระยะเวลา5วัน !!!

นี่อาจจะเป็นเส้นทางที่ถือว่าจิ๊บๆถ้าคุณไปด้วยบิ๊กไบท์ แล้วถ้าคุณไปด้วยctล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีอะไรคาดเดาได้ ถามว่ามั่นใจไหมกับ ct บอกเลยว่า"ก็ไม่รู้สินะ" แต่เมื่อใจมันเรียกร้อง มันก็ไม่มีอะไรจะมาหยุดมันได้แล้ว ผมบอกเลยทริปนี้ที่พวกเรากล้าไปเพราะแต่ละท่านมีความรู้ความชำนาญในเรื่องเครื่องยนต์กลไก (น้อยมากกกก)555+

กับระยะเวลา5วัน และปลายทางที่ถูกกำหนดไว้ในแต่ละวันคืออย่างต่ำ500กม.
จุดที่จะค้างแรมมีที่ไหนบ้าง คืนแรกค้างแม่สอด จ.ตาก คืน2 ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน คืน3 แม่สาย จ.เชียงราย คืน4 ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ คืน5บ้านใครบ้านมันที่ศรีราชา จ.ชลบุรี

เส้นทางที่ถูกกำหนดและปลายทางที่วางเอาไว้คือเป้าหมายที่เราจะไปให้ถึงแต่เมื่อคุณออกเดินแล้วมันไม่ถึงเป้าหมายที่คุณวางเอาไว้คุณยังได้ชื่อว่า คุณได้ลงมือทำแล้ว ไม่ได้นอนฝันหวานว่าจุดหมายอยู่ที่ไหนแต่ไม่ลงมือทำ. สวัสดี...

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

ตีเมืองจันทบุรี ตอนที่1

       "เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมาาาาาา" ก็มาตามคำเรียกร้องครับ แม้จะเป็นแค่เพียงคนเดียวแต่ก็ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเขียนเรื่องราวของคนที่รักในสองล้อต่อไป ก็ตามสัญญาที่ว่าเอาไว้คือทริปที่สองตีเมืองจันทบุรี(มหาโหด) มีครบรสชาติ ทั้งสุขและทุกข์ ทั้งเปียกและแห้ง แห้งและเปียก
     จัดว่าเป็นทริปแรกของกลุ่มตะวันออก ที่นำขบวนโดยประธานกลุ่มพี่บี ระยอง อีกเหมือนเดิม หลังจากกลับจากทริปปราณได้ไม่นานพวกเราก็มีกลุ่มที่เริ่มจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อยจึงอยากพบปะหน้าตากันบ้างเพื่อทำความรู้จักและวัดพลังกันดูว่าใครจะหล่อกว่ากัน เผื่อจะส่งไปประกวดโดเบอร์แมนสักปี
     ตีเมืองจันทรบุรีคือข้อสรุปในกลุ่มและปรายทางที่ฉันรอคอยที่สุดก็จบตรงนี้"ถนนบูรพาชลทิต"ที่ถูกขนานนาม(จากใครก็ไม่รู้)ว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดของภาคตะวันออก ผมนี่ยกขาหน้าเลยไปด้วยแน่นอน ตั้งแต่ซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้มาบอกเลยผมได้ไปในที่ ที่ไม่เคยไปได้รู้จักเพื่อนฝูงมากมายหลายสาขาอาชีพนับว่าคิดไม่ผิดที่หลวงเข้ามาในวังวลของ centaur
     05:00น.เสียงนาฬิกาที่ตั้งจากโทรศัพท์ทำหน้าที่ของมันอย่างที่เราต้องการปลุกผมลุกจากที่นอน อาบน้ำเตรียมตัวเดินทางสู่จุดรวมพลเพื่อเคลื่อนขบวน สู่ระยองจุดรวมพลใหญ่ ฟ้าแล็บที่ปรายฟ้าเหมือนจะบอกว่าวันนี้อาจจะมีฝนตก เรือเล็กควรออกจากฝั่ง แต่เมื่อพวกเราได้ตัดสินใจแล้วและทุกคนมองไปที่จุดหมายปรายทางอะไรล่ะจะมาหยุดพวกเราได้
     07:00น.ระยองฮิ(สั้นหรือยาวเค้าก็ไม่รู้สินะ) พวกเราก็มาถึงจุดรวมตัว ทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ ก็มาพบและรู้จักกันก็วันนี้แหละ แต่ตำนานของผมมาเกือบครบขาดแต่ เพื่อนเราคนนึง(แมนจู)แล้วเขาก็หายจากกลุ่มเราไปตลอดกาลจนถึงวันนี้ พี่บี ถัง เกมส์ คือผู้พิชิตปราณบุรี และที่เหลือก็เป็นกลุ่มเราที่มาใหม่รวมแล้วสิบกว่าคัน วันนี้เราจะเข้าตีเมืองจันทรบุรี ณ ขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มสดใสแดดเริ่มสาดแสงครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า วันนี้อากาศช่างเป็นใจเหมาะแก่การขับรถกินลมชมวิวเรียบชายทะเลเกิ๊นนน....
     จะมีอะไรดีกว่านี้อีกเล่าพี่น้องเอ๋ย ขับรถเรียบชายเลในวันที่ท้องฟ้าสดใจแจ่มเบยยยย
จุดรวมพลระยองฮิ
     ณ จุดนี้ถือว่าเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย น้องเราคันหนึ่งมาถึงปั๊มยางรั่วซะยังงั้น วิ่งหาร้านปะยางสิครับพี่น้อง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการเดินทางเรารอกันได้อาจจะเสียเวลานิดหน่อยแต่สิ่งที่เราจะเจอข้างหน้านี่แหละจะทำให้เราหายเหนื่อย
     หลังจากทำการปะยางเรียบร้อยเราก็มุ่งหน้าสู่เมืองจันทร์ ลัดเลาะไปตามชายเล หาดทรายขาวๆกับต้นสนที่ชายเล (มองหาต้นพร่าวกะไม่เห็นมีมีแต่ต้นสน)
     ตอนนี้ผมมีปัญหากับคอมเรื่องลงรูปคงเอาไว้แค่นี้ก่อนเอาไว้ตอนหน้าจะมาพร้อมรูปภาพและเรื่องราวต่อจากนี้ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ช้าเพราะอาทิตย์ที่แล้วทำงานประจำไม่ได้หยุดเลย แล้วเจอกันครับ สวัสดี

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทริปแรกในชีวิต ตอนจบ

     ตอนสุดท้ายของทริปแรกในชีวิต ถือว่านี่เป็นทริปที่สุดโหดของผมครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้เพราะไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์ไกลมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต อยากบอกว่าเมื่อไปถึงที่พักผมนี่แขนทั้งสองข้างไม่มีแรงจะจับปากกาเขียนหนังสือเลยมันล้าไปหมด แต่ก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำ ได้เจอกลุ่มคนที่รักในสิ่งเดียวกันกว่า200ชีวิต
      แต่พวกเราก็เป็นแค่ชนกลุ่มน้อยที่มีกัน5คนจากสายตะวันออกที่ไม่ถูกขานชื่อกลุ่มบนเวทีงานเลี้ยงคืนนั้นแต่พวกเราก็สัญญากันไว้ว่าพวกเราต้องยิ่งใหญ่เมื่อทริปหน้ามาถึง 
     หลังจากทริปนี้แขนผมปวดอยู่เป็นอาทิตย์กว่าจะกลับมาเป็นปกติ สุดยอดครับ
ขอบคุณพี่น้องที่ร่วมทางไกล พี่บี,ถัง,ดุ่ย,เกมส์







แล้วเจอกันเมื่อทริปหน้ามาถึง สวัสดี

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทริปแรกในชีวิต ตอนที่2

     มาแล้วจ้า ตอนที่2ทริปแรกในชีวิต กลับมาพร้อมกับอาการไข้ รักษาสุขภาพกันให้ดีนะครับช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
     ต่อจากตอนที่แล้วเลยแล้วกันครับ ถึงตอนที่รอกลุ่มระยอง เที่ยงคืนตรงเป๊ะ...ยังไม่มีวี่แวว พี่จากระยอง มีแต่ละอองฝนที่ยังโปรยปราย ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเพื่อสอบถามว่าถึงไหนกันแล้วสักพักก็ทราบว่าอีกประมาณ30นาทีจะมาถึงจุดนัดหมาย รอต่อไปครับ
     พักใหญ่30นาที แสงไฟจากมอเตอร์ไซค์สองคันผ่าความมืดมาจอดตรงที่ผมกับน้องรออยู่ใช่เลยรถทรงเดียวกันและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอตำนานของสายตะวันออก พี่บีระยอง จาก4เดือนที่คุยกันโดยไม่เห็นหน้ามีเพียงตอบโต้กันทางตัวหนังสือและเสียงตามสาย พี่บีมาพร้อมกับถังและดุ่ย(แมนจู) และนี่จะเป็นตำนานตลอดไปของสายตะวันออก ตำนานบทนี้เขียนขึ้นโดยชาย5คน พี่บี ถัง ดุ่ย เกมส์ และผม
     หลังจากทักทายทำความรู้จักกันแล้ว พวกเราก็เริ่มออกเดินทางเพื่อมุ่งยังจุดรวมพล ศูนย์ราม กทม.เนื่องจากคืนนี้มีฝนตกทำให้ตลอดทางที่เราผ่านมีอุบัติเหตุให้เห็นเป็นระยะๆ แต่เราก็ไปกันด้วยความระมัดระวัง มอเตอร์ไซค์4คัน กับคน5คน เปียกแล้วแห้ง แห้งแล้วเปียก นี่หรือชีวิตไบเกอร์ที่ผมจะต้องเจอตลอดไป ถ้าใช่ผมก็พร้อมจะยอมรับมัน ณ บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป
     เกือบ 05:00น. พวกเรามาถึงจุดนัดหมายศูนย์รามเริ่มมีพี่น้องจากสายอื่นมารวมกันแต่ยังไม่มากเท่าไรเพราะยังไม่ถึงเวลานัดหมาย รถพวกเรา4คันสภาพเมื่อมาถึงเหมือนกับรถที่ไม่เคยถูกน้ำล้างเลยมาเป็นแรมปี หลังจากพักผ่อนตามอัธยาศัยสักพักก็เริ่มมีพี่น้องจากสายอื่นๆทะยอยมาจากรถที่จอดไม่กี่คันเมื่อสักครู่ตอนนี้ประเมินด้วยสายตาแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า100คัน!!!!!!
   
พี่คนนี้แกคงชอบเต้นแร๊พ หุหุ

ชักภาพระหว่างทาง

วัดห้วยมงคล
วันนี้จบแค่นี้ก่อนไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าครับ สวัสดี

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทริปแรกในชีวิต ตอนที่1

      ทริปแรกในชีวิตของการขับมอเตอร์ไซค์ที่ไกลที่สุดตั้งแต่เกิดมา ไปกลับ 800กว่ากิโลเมตร ผมทำได้ไงอ่ะ ที่ผมทำได้ก็เพราะมีพี่น้องร่วมทางถ้าจะให้ผมขับไปคนเดียวน่ะเหรอฝันไปเถอะผมไม่ไปเด็ดขาด
      หลังจากเริ่มทำความรู้จักกับ centaur ได้ระยะหนึ่งแล้วและเริ่มรู้จักพี่น้องที่ขับ centaurเหมือนกันในพื้นที่ใกล้เคียง ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่กลุ่ม centaur thailand จัดกิจกรรมทริปท่องเที่ยวประจำปีครั้งที่2 เพื่อสานสัมพันธ์ของกลุ่มพี่น้องที่ใช้มอเตอร์ไซค์ centaur และสถานที่ที่ถูกกำหนดไว้คือปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์!!!!
ชายหาดยามเช้าที่ชายหาดปราณบุรี กับวิศวะชาวจีน(คนไหนดูเอาเองครับ)
      วันที่ถูกกำหนดคือ 2-3สิงหาคม 2557 ก่อนเดินทาง3วันอากาศปลอดโปร่งท้องฟ้าสดใส แต่คืนที่พวกเราจะต้องออกเดินทาง และใกล้เวลานัดคือ 00.00น.ฝนเริ่มโปรยปรายเม็ด  โอ้...เป่นไป่ได้ ไม่ตกมาตั้งหลายวัน วันที่จะเดินทางจะตกมาทำไมเนี่ย วันนั้นผมทำงานและเพิ่งเลิกงานมา21.30น.กะว่าจะหลับสักพักจะได้มีแรงขับมอเตอร์ไซค์เพื่อเดินทางไกลผมล้มหัวลงบนหมอนได้นานเท่าไรไม่รู้แต่ความรู้สึกคิดว่ามันนานมาก หลับๆตื่นๆเพราะตื่นเต้นกับการเดินทางไกลครั้งแรกด้วยมอเตอร์ไซค์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี่แล้ว
      กริ๊งงงงงงงงง....กริ๊งงงงงงงงงง....เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ดัง 23.00น. บอกให้ผมรู้ว่าใกล้เวลาแล้วนะ
      miss call ใครหว่า3สายโทรมาทำไมดึกดื่น ผมโทรกลับปรากฏว่าเป็นน้องที่จะร่วมทริปมันตื่นเต้นกว่าผมอีก ออกมารอก่อนเวลานัดหมายเป็นชั่วโมง ผมรีบไปอาบน้ำจัดแจงเก็บสัมภาระที่จะเอาติดตัวไปใส่เป้และรีบออกไปจุดนัดหมาย
      ฝนยังตกปรอยๆแต่บนพื้นถนนนี่เปียกหมดแล้ว ฝนไม่จำเป็นต้องตกแรงแค่พื้นถนนเปียก ขับcentaurก็พร้อมจะเปียกได้เสมอ ระยะทางจากบ้านผมมาจุดนัดหมาย 5กิโล ผมนี่กางเกงเปียกตั้งแต่หัวเข่าลงไปยันรองเท้าเลยน้ำเต็มรองเท้าผ้าใบไม่ใช่ฉี่ราดเพราะตื่นเต้นนะแต่เป็นเพราะฝนนี่แหละ ผมมาถึงจุดนัดหมายเจอน้องมารออยู่ก่อนแล้วด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากผมเท่าไร คือเปียก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอพี่น้องที่ขับรถเหมือนกันในระแวกนี้หลังจากขับคนเดียวมา4เดือน
      หลังจากพูดคุยไถ่ถามชื่อเสียงเรียงนามกันพอสมควรพวกเราก็นั่งรอพี่น้องจากระยองอีก3ท่าน ที่จะร่วมเดินทางไปกับเรา ป้ายรอรถประจำทางเล็กๆพอบังฝนที่ตกปรอยๆได้บ้าง 00.00น.แล้ว พี่น้องระยองก็ยังไม่มา  เริ่มจะยาวแล้วเอาไว้ตอนหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นยังไง สวัสดี....

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

custom แล้วนะรู้ยัง

     custom.......ร้อนๆมาแล้วจ้าาาาาาาา แต่งองค์มานานได้เวลาแชร์ประสบการณ์การcustomแบบหลับหูหลับตาไม่ปรึกษาใคร
     แล้วไอ้ custom มันคืออะไรเหรอหลายท่านอาจจะสงสัย custom ก็คือการแต่งรถนี่แหละครับ จะแต่งยังไงก็แล้วแต่ใจเราชอบเลยครับ หาสิ่งที่ตัวเองชอบให้เจออย่าหลงทางหลงแนวเพราะมันจะทำให้คุณเสียเงินเพิ่มอีกเยอะกว่าจะเจอแนวของตัวเอง
     อย่างแรกเลยหากใครอยากจะแต่งรถลองหาแนวของตัวเองให้เจอครับโดยลองเปิดหาดูแนวทางในเน็ตดูถ้าไม่รู้จะไปดูที่ไหนถาม อ.กู(เกิล)ครับ เดี๋ยวนี้ข้อมูลต่างๆในเน็ตหาไม่อยาก ลองเปิดๆกันดู หรือจะเปิดดูที่เพจcentaur thailand  ดูแนวทางการแต่งและปรึกษา ซื้อ-ขาย อุปกรณ์แต่งมีหมด (ถ้ามีเงินซื้อ)
     ผมได้รถมาเมื่อครั้งสำนักแต่งใกล้บ้านยังไม่ถือกำเนิด(guru shop บ่อวิน)ผมเลยต้องช่วยตัวเอง ช่วยตัว ทำเอง อาศัยการถอดเป็นสำคัญ55  อะไรไม่เอาก็ถอดทิ้งปายยย มาดูพัฒนาการว่ามันเริ่มต้นและลงท้ายยังไง ตามไปดูกันครับ
เริ่มต้นจากกาารเปลี่ยนไฟท้ายผมซื้อไฟท้ายมา350บาทแล้วเอามาจัดการทำขายึดโดยอาศัยวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือจากโรงงานเป็นสำคัญ


อันนี้ไม่ทำไรมากครับเริ่มถอดสิ่งของเกินจำเป็นออกไป ทั้งป้ายstallionและลอกสติกเกอร์ถังน้ำมันและฝากระเป๋าข้าง

ซ่อนแบตเตอรี่ด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ในโรงงาน และจัดการยกโช๊คหลังให้สูงขึ้น ตัวยกโช๊คข้างละ100บาท รวมค่าใส่เป็นเงิน300บาท

ใส่แฮนด์ค้างคาวราคา 440บาท สั่งทางเน๊ตรวมค่าส่งแล้วและจัดการย่นไฟหน้าด้วยวัสดุอุปกรณ์ในโรงงาน
เปลี่ยนแฮนด์เป็นของตัวคลาสสิก แลกกับแฮนด์คาเฟ่
ตัดท้ายทำเองเสียค่าซื้อใบตัด 20บาท
ยกถังน้ำมันทำเอง
กันสะบัดสั่งจากพี่ทศ 900 บาท
ทำเบาะใหม่ 750 บาท

ปิดท้ายด้วยท่อเพตั้นสวยๆเสียงกระหึ่มจากสำนักแต่ง ranger korat ในราคา3900บาท
     รวมทั้งหมดของการทำรถไปผมได้รถออกมาแนวนี้ในราคาเฉียด 7000บาท มันไปหลงแนวนิดหน่อยระหว่างการตัดสินใจว่าจะเป็นคาเฟ่หรือแทรคเกอร์ดีสุดท้ายผมก็เลือกแนวแทรกเกอร์เหตุผลที่ช่วยในการตัดสินใจไม่มีอะไรมากครับ ผมเอาแฮนด์ตัวคาเฟ่ไปแลกกับตัวคลาสสิกมาพอเอามาใส่แล้วมันรู้สึกขับสบายผมเลยถอดแฮนค้างคาวทิ้งเลยและใส่แฮนด์คลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้
     แต่นี่เป็นแค่ภาพอดีต เมื่อครั้งเตรียมตัวออกทริปครั้งแรกในชีวิตและเป็นการขับมอเตอร์ไซค์ที่ไกลที่สุดในชีวิตอีกเหมือนกันมาติดตามว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไรในคราวหน้านะพี่น้อง สวัสดี

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

stallion centaur เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีปัญหาเยอะจริงหรือ???

     ตอนที่แล้วว่าจะพูดถึงปัญหาของเจ้า staliion centaur ว่าผมเจออะไรมาบ้างตั้งแต่ได้มาครอบครอง เสียงร่ำลือหนาหูมากครับว่ารถมีปัญหาจุกจิกมากมายนานัปการจนทำให้หลายคนที่อยากจะสอยมาครอบครองต้องเบลกลากล้อหันหลังกลับไปมองรุ่นอื่นแทน แต่จะว่าไปแล้วก็จริงครับ(ถ้าไม่ชอบสไตร์นี้และใจรักจริงคงไม่เลือก) แต่ผมถือว่าโชคดีเพราะตั้งแต่คลุกคลีตีโมงได้เดินทางกับมอเตอร์ไซค์คันนี้มา มีปัญหาเพียงอย่างเดียวคือแตรไม่ดัง หุหุ
     ปัญหาจุกจิกเหล่านี้สามารถแก้ให้หายได้เพียงแค่เข้าไปในเพจ centaur thailand แล้วโพสถามปัญหาไว้แค่นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ(เกี่ยวกันมั้ย)ปัญหาเหล่านี้ก็จะมีพี่น้องเข้ามาช่วยตอบเพื่อให้คุณหรือผมสามารถแก้ไขได้ ถ้าปัญหามันหนักเกินที่จะแก้ไขเองได้ก็อาจจะมีพี่น้องเข้าไปช่วยทำให้ถึงที่ นี่แหละครับ centaur ที่ทำให้ผมหลงรักเลย
     อีกปัญหาที่ผมเจอและมันก็ทำให้ผมฉลาดขึ้นก็คือขับจนน้ำมันหมดถัง(จริงๆยังไม่หมดแต่เหลือน้อยน้ำมันไหลลงก๊อกน้ำมันไม่ได้) ปกติผมขับรถด้วยการเปิดก๊อกน้ำมันไว้ที่ก๊อก2ตลอดเวลาแล้วเวลาเติมน้ำมันแต่ละครั้งก็เติมแค่ครั้งละ100-200บาท จนภายในถังน้ำมันครึ่งบนสนิมจะกินแล้วมั้ง
     ผมก็ใช้วิธีการเปิดดูน้ำมันภายในถังเอา แล้วก็ใช้วิธีการจำเอาไว้ว่าระดับไหนต้องเติมน้ำมันเพิ่มแล้ว แต่วันที่รถน้ำมันหมดผมได้ยกถังน้ำมันมาซึ่งทำให้องศาด้านหน้าของถังน้ำมันสูงขึ้น ตอนที่เปิดดูในถังก็คิดว่าน้ำมันยังมีเยอะจึงขับไปทำงานตามปกติแบบไม่เติมน้ำมันเพิ่ม ไปได้ครึ่งทางครับพี่น้องรถดับบบบบบบ.....ผมเปิดดูในถังน้ำมันก็มีน้ำมันอยู่ในระดับที่เคยเห็นเลยไม่คิดว่าน้ำมันรถจะหมด จอดสักพักลองสตาร์ทใหม่ติดครับพี่น้องงง...ผมก็เลยขับไปต่อสักพักดับอีกแล้วววว....จอดสักพักสตาร์ทติด ไปต่อ ไปได้อีกไม่ไกลดับอีกแล้วววว ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังดีเลยจอดรถไว้ข้างถนนกลางแดดเปรี้ยงของเวลาเพล ถอยดีกว่า กลับบ้านคือคำตอบสุดท้ายหลังจากจอดรถไว้สักพักผมลองสตาร์ทดูอีกครั้ง รถสตาร์ทติดผมหันหลังกลับบ้านทันที 
     เหตุการณ์เดิมๆยังตามหลอกหลอนผม รถดับอีก 4-5ครั้ง จนถึงร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ผมนี่รีบให้ช่างเช็คอาการเลย ช่างถึงกับงงครับเปิดดูในถังก็มีน้ำมันแล้วใยเจ้ารถเอยถึงสตาร์ทไม่ติด ช่างถอดสายน้ำมันออกจากก๊อกไม่มีน้ำมันไหลลงมา เลยคิดว่ามีเศษอะไรไปอุดก๊อกน้ำมัน จึงใช้ลมดันเข้าไปในถังลมเข้าไปในถังได้ปกติ แต่ไม่มีน้ำมันไหลลงมา ช่างงงอีกแระ....ผมงงยิ่งกว่า
     ช่างก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยลองเติมน้ำมันเข้าไปเพิ่ม น้ำมันไหลพรั่งพรูออกมาจากก๊อกน้ำมันไม่ขาดสาย ช่างยิ้ม  ผมยิ้ม และเหตุการณ์นี้ผมก็ได้จำไปตอบปัญหาใน centaur thailand อีก2-3ครั้ง ผมนี่ดูเป็นคนที่มีความรู้เรื่องมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาในทันทีเลย
     อีกปัญหาที่เจอและเป็นที่ฮอตฮิต พูดถึงกันตลอดเวลานั่นก็คือเรื่องเบรคหลังมีเสียงดังเวลาเบรค รถคันไหนไม่ดังผมว่าแปลกไม่เข้าพวก วิธีแก้ผมเปลี่ยนผ้าเบรคเลยครับ ใช้ของksr (เบรคหน้าใช้ของ nova) ใช้มาได้ 3เดือน กลับมาดังอีกแล้ว.....ง่ออออออ....
     อีกปัญหาก็โซ่หย่อนบ่อย เนื่องจากที่รองโซ่ก่อนเข้าสเตอร์หน้าเป็นยางรองเมื่อวิ่งรถบ่อยๆทำให้โซ่ไปสีกับยางรองสึกเรื่อยๆต้องตั้งบ่อยๆ เมื่อโซ่หย่อนก็ทำให้โซ่ไปสีกับเหล็กข้างล่างทำให้ดังแกร๊กๆ หลายท่านก็คงเจอปัญหาไม่ต่างจากนี้เหมือนกันก็ลองอ่านแล้วลองแก้กันดูครับ
     ตั้งแต่ออกรถจนถึงทุกวันนี้ปัญหาของผมก็มีแค่นี้แหละครับ เรื่องหน้าcustom byกูรู้ แน่นอนครับ
 จบ.....สวัสดี

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

custom (ยาวปายยยยยย....)

มาแล้วจ้า...ไม่ได้หายไปไหนแต่อยู่ที่อารมณ์กะทรงผมว่าจะมาเมื่อไร (เกี่ยวกันมั้ย) ก็มาถึงตอนที่5แล้วเร็วจริง เมื่อตอนที่แล้วพูดถึงการ custom ด้วยมือตัวเองแบบหลับหูหลับตาว่างั้นเถอะ ทำแบบไม่ปรึกษาใครอยากทำอะไรก็ทำทำเองไม่ต้องเกรงใจใคร
     ก่อนจะพูดถึงการแต่ง มาพูดถึงอารมณ์และสัมผัสแรกที่ได้ขึ้นคร่อมบนหลังเบาะก่อนดีกว่า สัมผัสแรกของหว่างขาที่ได้สัมผัสรู้สึกเหมือนขัดเขิลบ้างเนื่องจากผมไม่ได้สัมผัสอารมณ์แบบคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ผู้ชายมา10กว่าปี แต่สักพักก็เริ่มชินจัง
     ขับออกจากร้านด้วยอารมณ์เท่ห์สุดๆ ข้างถนนที่ผมขับผ่านมีสายตาหลายคู่มองตามหลังรถเหมือนกับว่า โอ้ว....คนขับใช่ดาราเกาหลีหรือเปล่านะ(ประมาณนั้น) ผมสังเกตุด้วยหางตาและแอบยิ้มอยู่คนเดียวเท่ห์ฟุดๆเลยเค้าอ่ะ....
วันแรกกับ centaur 26/03/2557
      รับรถวันแรกผมนี่ขับมาทำงานแทนรถยนต์เลยครัช กะว่าโชว์เต็มที่ถึงโรงงานพร้อมกับละอองฝนที่เริ่มล่วงหล่นจากท้องฟ้าเหมือนเทวดาจะอวยชัยให้พร ไม่ผิดจากที่คาดเดาสักเท่าใดเมื่อรถมาจอดใต้ชายคาโรงจอดรถหลายคนเข้ามาชื่นชมกันใหญ่ ผมนี่หล่อเลย
     เช้าวันที่2ที่ได้เป็นเจ้าของ stallioncentaur ผมขับไปหาหลวงปู่ให้เจิมรถเลย หลวงปู่ฮก รตินฺธโร วัดมาบลำบิด เจิมรถพร้อมหมวกกันน็อก ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้รถผมยังขับขี่ปลอดภัย แต่เฉียดถึง2ครั้ง แต่ก็แคล้วคราดมาได้ เพราะบารมีหลวงปู่ที่คุ้มครองผมแน่ๆ
หลวงปู่ฮก เจิมรถ
หลวงปู่ฮก เจิมหมวกกันน๊อค

     เกริ่นมาซะก็ยาวเหยียดจะว่าด้วยเรื่องการ หลับหูหลับตาcustom ก็จะยืดยาวไปกันใหญ่เดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อเห็นเขาสำรวจมาว่าคนไทยอ่านหนังสือ ปีละ7บรรทัด ผมนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยใครอ่านจบทุกเรื่องที่ผมเขียนมา เชื่อเลยไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นแน่นอน
     เอาเป็นว่ามาตามอารมณ์แล้วกันนะครับพี่น้องเรื่องผมยังมีอีกเยอะ ไว้จะมาเล่าให้ฟัง รถมีปัญหาอะไรมั่งตั้งแต่เอามาไว้ในครอบครอง บอกเลยมีปัญหาแน่นอน.......แล้วเจอกัน สวัสดี

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

ปฐมบท ตอนจบ

มา ณ จุดนี้ก็เป็นบทความที่4แล้ว ผมก็เขียนไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรำลึกความทรงจำส่วนตัวถึงจุดเริ่มต้นที่เข้ามาในวงการนี้
     ถามว่าที่เราทำอยู่นี่คือการเขียนบล็อกนี่ถ้าไม่มีคนอ่านคนติดตามจะคิดยังไงทีแรกก็ได้คำตอบกับตัวเองว่าถ้าเขียนไปแล้วไม่มีคนอ่านจะเขียนทำแพะอะไรวะ แต่เมื่อมานั่งทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้วจะมีคนอ่านหรือไม่มีก็ไม่เห็นจะเป็นไรก็เราบอกว่าเป็นไดอะรี่ส่วนตัวนี่ 55+
     ณ จุดนี้เราก็แค่บันทึกเรื่องราวเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่หลงเข้ามาในวังวนและมนต์เสน่ห์ของ centaur
     ร่ายมาซะยาวเหยียดจะพูดเรื่องไรเนี่ย วันนี้จะมาบอกไว้ทำไมผมต้องคาเฟ่ ไม่คลาสสิก ก็ไม่รู้สินะเพราะดูในอินเตอร์เน๊ตแล้วชอบเลยคาเฟ่เรเซอร์ ผมนี่บอกแม่ค้าเลยเอาคาเฟ่คัน พร้อมวางมัดจำอีก10วันรับรถที่จองไว้เป็นตัวคาเฟ่สีครีมครับพี่น้อง วันรับรถก็มีเหตุวุ่นวายนิดหน่อยเนื่องจากรถรุ่นนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนหน้าตาดี ผมเลยไม่ได้สีที่จองเพราะมีคันเดียวในร้านต้องต่อรองกับแม่ค้าพักใหญ่เลยได้สีดำมาไว้ในหว่างขาแทน 
     ราคารถตอนนั้น ตัว cafe 62900บาท classic 59900บาท ผมอยากเป็นโก๋อังกฤษเลยจัดซ๊า....คาเฟ่ วันไปรับรถผมยังจำได้ไม่ลืม 25มีนาคม2557 ผมนี่ไปซื้อหมวกกันน็อกสีขาวรอเลยกะว่าได้รถสีครีมแน่นอน พอไปถึงร้าน แม่ค้าบอกมีคนอยากได้สีครีมเลยพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ผมเอาสีดำให้ได้ทั้งที่ผมจองสีครีมเอาไว้ ซึ่งมันมีคันเดียวในร้าน ต่อรองกันสักครึ่งชั่วโมงผมเลยได้คาเฟ่สีดำพร้อมส่วนลด1500บาท มาถึงวันนี้ผมคิดว่าคิดถูกแล้วที่เลือกสีดำเพราะผมได้ส่วนลด 1500บาท. 55+ และปัจจุบันนี้รถผมยังไม่มีสีเลยเพราะขัดสีถังน้ำมันออกแล้ว
    ปฐมบทของการเข้ามาในวงการก็น่าจะจบแต่เพียงเท่านี้เพราะล่วงเลยมาถึง4ตอนแล้ว ตอนต่อไปจะเป็นเรื่องราวของการ custom ด้วยมือตัวเอง ว่ามันจะออกมาแนวไหนแล้วเจอกันตอนต่อไปครับ สวัสดี...

ทำไมต้อง centaur.

     ทำไมผมถึงเลือก stallion centaur 150 มันมีคำตอบอยู่ในความรู้สึกแล้วความมั่นใจลึกๆว่าถ้าผมเลือกแล้วหากรถมีปัญหาอะไรผมก็ยังมีกลุ่มพี่น้องคอยตอบปัญหาเกี่ยวกับปัญหาต่างๆของรถ แล้วกลุ่มพี่น้องที่ผมว่ามาจากไหนหรือ???
     สิ่งที่ผมไปเจอมาตอนหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้า stallion centaur150 ตอนนั้นถือว่ามีข้อมูลในอินเตอร์เน็ตค่อนข้างน้อยถึงน้อยมากไม่มากมายเหมือนเช่นทุกวันนี้ สิ่งที่ไปเจอคือเฟส centaur thailand ซึ่ง ณ เวลานั้นมีสมาชิกไม่ถึง 3000คน ผมได้ add faceไปเพื่อเข้าเป็นสมาชิกและได้สอบถามเกี่ยวกับข้อมูลและปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับรถและได้คำตอบที่ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อผมซื้อรถคันนี้มา ถึงมันจะมีปัญหาผมก็มาให้พี่น้องใน centaur thailand ไขข้อข้องใจได้ เพราะพื้นที่ที่ผมอยู่ห่างไกลจากศูนย์มากกกกก....เป็นเพียงร้านตัวแทนจำหน่าย ในเขตพื้นที่ชายแดนรอยต่อระหว่างชลบุรีกับระยอง
     มาถึงตอนนี้ผมลืมไปเลยว่าเคยมีตัวเลือกอีกตัวคือ tiger retro 110 (นับจากนาทีนี้ไปผมจะลืมชื่อนี้ไปซะแล้วจะมีแต่คำว่า stallion centaur150)
     เมื่อทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้วผมได้แต่นั่งร้องเพลงรอเงินโบนัสเพื่อไปสู่ขอเจ้า stallion centaur150 มาไว้ในหว่างขาเท่านั้น

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

จุดเริ่มต้น


     จุดเริ่มต้นของการหันมาสนใจขี่มอเตอร์ไซค์ของผมเนื่องจากผมใช้รถยนต์อยู่แล้วและขับไปทำงานอยู่ทุกวันและเห็นว่าระยะทางจากบ้านถึงที่ทำงานก็ไม่ได้ไกลมากจึงอยากหาวิธีลดค่าน้ำมัน เลยหันมามองว่าจะหามอเตอร์ไซค์สักคันขี่มาทำงาน
     เริ่มจากการหาข้อมูลมอเตอร์ไซค์เก่าแนวที่ชอบ คือแนวรถโบราณ ก็ไปสะดุดตากับเจ้า suzuki K125 จึงเริ่มค้นหารถในอินเตอร์เน็ตในราคาที่จับต้องได้และถูกกฎหมาย สภาพดี แต่ก็ไม่เจอคันที่ตอบโจทย์นั่นเพราะด้วยสเป็คทีตั้งไว้สูงแต่ก็ยังต่ำกว่าราคาที่เป็นจริง อีกนัยนึงก็คิดว่าถ้าซื้อรถเก่ามาต้องใช้ไปซ่อมไปหรือเปล่า เลยเริ่มเปลี่ยนความคิด ว่าจะหารถใหม่ดีกว่า
suzuki k125
     และก็ไม่พ้น ต้องไปถาม อ.กู(เกิล)อีกเหมือนเดิม โป๊ะเช๊ะ...ผมเจอแล้วครับ ตรงตามที่ต้องการรถใหม่ราคาเบา tiger retro110 คันนี้ผมเอาแน่นอน(ความคิดแวบแรกที่เจอมันในกูเกิล) ผมเริ่มค้นหาข้อมูลรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับมัน เมื่อมีข้อมูลพอสมควร และคิดว่าจะเอาแน่นอนก็เลยเปิดหาดูรถรุ่นอื่นๆเล่นๆชิวๆเพื่อรอเงินโบนัส
tiger retro sport110
     วันหนึ่งผมได้ขับรถผ่านร้านขายมอเตอร์ไซค์แถวบ้านสายตาก็ไปสะดุดตากับมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งในหมู่มวลมอเตอร์ไซค์อีกหลายคันที่จอดโชว์หน้าร้าน สวยว่ะ....(คิดในใจราคาไม่ต่ำกว่าแสนแน่นอน)ผมจอดรถหน้าร้านแล้วเดินเข้าไปถามคนขาย นี่มันมอเตอร์ไซค์รุ่นอะไร ราคาเท่าไร 
stallion centaur 150
   
     stallion centaur 150 โอ้วววว....สวยเลยโดนใจ ผมเริ่มปันใจแบ่งเป็นสองทั้งที่คิดแน่วแน่แล้วว่าจะจัด tiger retro 110 ผมต้องกลับมาพึ่ง อ.กู(เกิล)อีกครั้งเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้า stallion centaur 150 ว่ามันเป็นใครมาจากไหนทำไมมันถึงมาทำให้จิตใจผมหวั่นไหวได้ถึงเพียงนี้ เมื่อทราบข้อมูลและราคาก็อยู่ที่การตัดสินใจแล้วว่าผมจะตกลงปลงใจกับใครดี
     1 เดือน กับการรอเงินโบนัสและการตัดสินใจที่ค่อนข้างยากที่สุดในชีวิต 
tiger retro110 ราคา 37000บาท (ซื้อสด)
stallion centaur 150 ราคา 62900 บาท (ดาวน์)
     เฮ้ออออออ......เอาไงดีหว่า
ผมลองโทรถาม tiger retro110 ว่ารถมีหรือเปล่า คำตอบที่ได้คือรถยังไม่ขึ้นไลน์ผลิตต้องรออีก 1เดือน ระหว่างที่รอผมบวกลบคุณหารข้อดีข้อเสียแล้ว ผมตกลงเลือก staliion centaur150 ผมกลับไปที่ร้านมอเตอร์ไซค์พร้อมวางมัดจำ   
    เรื่องราวจะดำเนินต่อไปยังไงติดตามอ่านกันได้ในบทความต่อไปนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

เปิดไดอะรี่

สวัสดีครับก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน ผมชื่อโจ ผมมีความคิดความฝันว่าจะเขียนเว็บบล็อคเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ที่รักมาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่มีเวลาสักที ที่จะได้ลงมือทำ จนมาถึงเวลานี้เป็นนิมิตรหมายอันดีที่ได้เริ่มต้นลงมือทำเป็นเรื่องเป็นสักที เรื่องราวในไดอะรี่ของผมก็จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นความเป็นมาว่า ไปยังไงมายังไงผมถึงได้ตกลงปลงใจกับเจ้า stallion centaur และจุดเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง custom และทริปต่างๆที่ได้เดินทาง หวังว่าไดอะรี่ของผมคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ชื่นชอบในสิ่งนี้ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำก่อนที่จะไม่มีโอกาส คอยติดตามและเดินทางไปด้วยกันครับ
                                                                                                                        ขอบคุณครับ
                                                                                                                               โจ